เอนทรี่นี้เป็นส่วนหนึ่งของ
MISSION IMPOSSIBLE by Alistair Lerwick and Team
Team H
บริเวณท่าเรือในแมนฮัตตัน มีรายงานว่ามีวัตถุซึ่งน่าจะเป็น 0-8-4 ถูกซุกซ่อนไว้ภายใน โกดังมีลักษณะเป็นโกดังเก็บของร้างซึ่งมีขนาดเป็นสองเท่าครึ่งของขนาดปกติ ภายในโกดังมีเครื่องจักรในการขนย้ายสินค้าและชั้นเก็บสินค้าอยู่จำนวนมากซึ่งทั้งหมดไม่ได้รับการบำรุงรักษามาเป็นระยะเวลานานแล้ว ด้านในสุดของโกดังเป็นส่วนของสำนักงานซึ่งถูกปิดตายประตูไว้ อนุญาตให้เข้าค้นภายในได้
0-8-4 มีความสามารถในการปล่อยคลื่นความถี่ต่ำ ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิต
คำแนะนำ : แบ่งทีมค้นหาภายในตัวโกดังและส่วนสำนักงาน จะสามารถค้นหาได้รวดเร็วกว่าไปค้นหาพร้อมกัน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหัวหน้าทีมและสมาชิก
อุปกรณ์สำหรับการเข้าค้นหาวัตถุหมายเลข 0 – 8 – 4 จากการวิเคราะห์ของแผนกไบโอ
- เครื่องตรวจสอบแหล่งกำเนิดคลื่น 2 เครื่อง โดยที่ตัวเครื่องจะประมวลผลข้อมูลทั้งหมดที่เก็บรวบรวมได้ส่งให้กับไบโอเคมิสต์ (คอนเนอร์) ที่ประจำการในแลปวิจัยเคลื่อนที่เพื่อสรุปผลส่งต่อมายังแต่ละ่หน่วยทีมที่ลงไปค้นหาวัตถุ
- โดยทุกทีมจะได้รับจอโฮโลแกรมแบบพกพาเพื่อรับข้อมูลในระหว่างการค้นหา ( ทั้งหมด 3 เครื่อง )
- เครื่องวิเคราะห์และระดับความถี่คลื่น สำหรับแยกประเภทคลื่นที่บันทึกได้ในเวลานั้น และวัดระดับความถี่คลื่นเพื่อระบุเป้าหมายที่กำลังสืบค้น ( ทั้งหมด 3 เครื่อง )
- โตรนสำรวจ 6 ตัว เพื่อค้นหา และเก็บชิ้นส่วนตัวอย่างของวัตถุดังกล่าวเพื่อนำมาทดลองทางวิทยาศาสตร์ก่อนหาวิธีที่เหมาะที่สุดในการเคลื่อนย้ายออกจากสถานที่ดังกล่าว
*(ในกรณีที่ไม่สามารถเก็บตัวอย่างออกมาตรวจสอบได้ ฝ่ายไบโอเคมิสต์จำป็นต้องลงไปตรวจสอบวัตถุดังกล่าวด้วยตัวเอง)
-
เครื่องมืออุปกรณ์สำหรับเคลื่อนย้ายวัตถุต้องสงสัย แต่เนื่องจากยังไม่สามารถระบุขนาด และรูปร่างของวัตถุได้ อาจจำเป็นต้องติดต่อขออุปกรณ์ดังกล่าวภายหลัง
แผนการหลบหนี จากแผนก Tech Expert
- สถานการณ์ปกติ : ใช้รถตู้ไป-กลับ ระหว่างท่าเทียบเรือ 54 และโกดังร้าง
- สถานการณ์ฉุกเฉิน : มีรถเก๋งสองคันและมอเตอร์ไซค์หนึ่งคันจอดอยู่ไม่ห่างจากโกดังร้าง มีกุญแจรีโมทให้ไว้กับแต่ละทีม
- ใช้เส้นทางตามที่ใส่ข้อมูลไว้ให้ในสมาร์ทโฟน เป็นเส้นทางที่แยกย้ายกันไป และไปรวมตัวกันที่สถานที่ลับ ที่นัดหมายกันไว้ เพื่อบินเฮลิคอปเตอร์กลับทริสเกเลี่ยนพร้อมกัน
- สถานที่นัดหมายกรณีฉุกเฉิน : ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ชั้นที่ 42 ของอาคาร Goldman Sachs Tower อยู่ฝั่งนิวเจอร์ซีย์ อีกฟากของแม่น้ำฮัดสัน จะมีเจ้าหน้าที่ของชีลด์รออยู่ที่นั่น ที่ลิฟต์ตัวที่ 36 ให้ไปถึงที่หมายตามเวลาที่หัวหน้าจะนัดหมายไว้ล่วงหน้า
หมายเหตุ : ถ้าจำเป็น เจ้าหน้าที่แมทเธโอสามารถเข้าไปแฮ็คระบบสัญญาณไฟจราจรได้ เตรียมการไว้พร้อม
แผนตรวจสอบ 0-8-4 แผนกภาคสนาม
Alpha team : M. Harper + E. Zack รับผิดชอบ พื้นที่โซน 1
Beta team : E. Law + M. Murakami รับผิดชอบ พื้นที่โซน 2
Delta team : A. Lewick + Q. Sullivan รับผิดชอบ พื้นที่โซน 3
HQ : N. Corner สำรวจเส้นทางอยู่ข้างนอกเผื่อมีเหตุฉุกเฉิน
0350
ชายวัยหนุ่มตอนปลายร่างกายกำยำปรากฏตัว ณ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ในชุดปฏิบัติการณ์ แจ็กเก็ทคาร์โก้ไม่มีแขนทับเสื้อยืดสีเข้ม เสื้อเกราะกันกระสุนพาดอยู่บนบ่า เป้ผ้าสีดำบรรจุแน่ไปด้วยอุปกรณ์และอาวุธต่างๆตามที่ระบุ
เมื่อขึ้นเครื่อง ได้เอ่ยทักสมาชิกคนอื่นที่มารอก่อนแล้ว ก่อนจะรับไฟล์ภารกิจเพิ่มเติมที่เอเจนท์ฮารเปอร์ หัวหน้าทีม ส่งให้มาศึกษา
เนื้อหาในไฟล์ภารกิจเพิ่มเติม
จากข้อมูลแผนเข้าสำรวจบริเวณอ่าวแมนฮัตตัน ณ โกดังร้างที่มีรายงานว่าพบวัตถุต้องสงสัย อยู่บริเวณท่าเทียบเรือหมายเลข 54 ที่ตั้ง 11th Ave. (at 13th St.)
: ท่าเทียบเรือหมายเลข 54 หรือที่เรียกอีกชื่อว่า ท่าเทียบเรือเชลซี เป็นท่าเทียบเรือที่ไม่ใช้งานแล้ว ปัจจุบันเหลือแค่ส่วนโค้งตรงทางเข้าท่าเรือเท่านั้นที่บ่งบอกให้รู้ว่านี่คือท่าเรือสำคัญในอดีต แต่ยังสามารถนำเฮลิคอปเตอร์ลงจอดได้ โดยเฉพาะตอนกลางคืนจะไม่เป็นที่สังเกตุมากนัก หรือจะทำเป็นถ่ายทำภาพยนตร์บังหน้าก็ได้ มีกองถ่ายภาพยนตร์มาใช้งานบ่อย และมีถนนที่เชื่อมต่อกับท่าเรือที่สามารถให้นำยานพาหนะอื่นไปจอดเตรียมไว้ได้อีกด้วย
: ตัวท่าเทียบเรือ 54 เอง ก็มีรายงานว่ามีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ในอดีตเป็นท่าเทียบเรือของสายการเดินเรือคูนาร์ด ที่เรือคาร์พาเทียนำผู้โดยสารจากเรือไททานิคที่จมมาส่งขึ้นฝั่ง และเป็นท่าเทียบเรือที่ปล่อยการเดินทางคร้ังสุดท้ายของเรือลูซิทาเนีย ก่อนจะอัปปางลงเนื่องจากถูกยิงในระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
: ท่าเทียบเรือ 54 ถูกไฟไหม้ในปี 1932 จนเลิกใช้งานไปพักใหญ่ และถูกทุบทิ้งในปี 1991 จนเหลือแต่ส่วนโค้งหน้าทางเข้าตามรูปข้างต้น และเลิกใช้งานเป็นการถาวร
: โกดังร้างอยู่เลยขึ้นไปทางเหนือประมาณหนึ่งกิโล เดิมเป็นโกดังเก็บของของบริษัทของเล่นแห่งหนึ่ง แต่ถูกทิ้งร้างโดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด โดยยังมีเครื่องจักรในการขนย้ายสินค้าและชั้นเก็บสินค้าอยู่จำนวนมากซึ่งทั้งหมดไม่ได้รับการบำรุงรักษามาเป็นระยะเวลานานแล้ว ด้านในสุดของโกดังเป็นส่วนของสำนักงานซึ่งประตูถูกปิดตายไว้
: โกดังแห่งนี้ มีพื้นที่กว้างกว่าโกดังปกติประมาณสามเท่า และมีสามชั้น
ชั้นล่าง เป็นส่วนของ Pedestal of Mirrors
ชั้นที่สอง เป็นส่วนของชั้นวางสินค้า Abandoned Merchandise
ชั้นที่สาม เป็นส่วนของสำนักงานที่มีบันไดเวียนแคบๆสำหรับเดินขึ้นไป
มอบหมายให้มีการแสดงบทบาทสมมติ ดังนี้
• นักแสดง extra คือตัวหัวหน้าเอง (เอกสารวางปูมหลังกำกับเพื่อช่วยให้เข้าถึงบทบาทในการปลอมตัวและตอบคำถาม : คุณชายหน้าตาดีลูกคนเดียวของบ้านที่เบื่อชีวิตหรูหราเลยออกมาใช้ชีวิตแบบบ้านๆ หาเงินเอง)
• ผู้กำกับคือมิสเตอร์เอลดริดจ์ (แจก เอกสารวางปูมหลังกำกับเพื่อช่วยให้เข้าถึงบทบาทในการปลอมตัวและตอบคำถาม : ผู้กำกับของกองถ่าย ตอนเด็กเติบโตมาอย่างลำเค็ญ หวังจะถ่ายหนังอินดี้เพื่อส่งเข้าประกวดเมืองคานส์)
• มิสเตอร์เลอร์วิค คนขับรถของกองถ่าย ควบทำงานจับฉ่ายบางครั้งควบบทผู้กำกับกับฝ่ายสถานที่ (แจก เอกสารวางปูมหลังกำกับเพื่อช่วยให้เข้าถึงบทบาทในการปลอมตัวและตอบคำถาม : ทหารพรานวัยปลดระวางผันตัวเองมาทำหนังเพื่อชีวิตแต่ไปไม่รอด เปลี่ยนงานหลายครั้งจนกลายมาเป็นคนขับรถ ความฝันสูงสุดคืดพรมแดงของเทศกาลหนังเมืองคานส์)
• มิสเตอร์มุราคามิและมิสเตอร์ซัลลิเเวน แผนกช่างไฟ และงานกรรมกรจิปาถะ (แจก เอกสารวางปูมหลังกำกับเพื่อช่วยให้เข้าถึงบทบาทในการปลอมตัวและตอบคำถาม : สองคนนี้เป็นเด็กในชนบทที่เป็นเพื่อนสนิทกันและรักหลงไหลในเรื่องเหนือธรรมชาติและวิทยาศาสตร์เคยลงขันกันเพื่อไปศึกษามนต์ดำที่เขมร
• คอสตูม มิสเตอร์คอนนอร์ (แจก เอกสารวางปูมหลังกำกับเพื่อช่วยให้เข้าถึงบทบาทในการปลอมตัวและตอบคำถาม : เกย์หนุ่มไฟแรงที่จับพลัดจับพลู่มาตกระกำลำบากกับกองถ่ายนี้ด้วยความจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน ชอบกระดกนิ้วเวลาดื่มน้ำ)
• ผู้จัดการส่วนตัว มิสเตอร์ลอว์ (แจก เอกสารวางปูมหลังกำกับเพื่อช่วยให้เข้าถึงบทบาทในการปลอมตัวและตอบคำถาม : เด็กหนุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นเบ้ส่วนตัวมากกว่าผู้จัดการ ประวัติไม่แน่ชัดอาจจะถูกนักแสดงนำตกมาจากบาร์โทรมๆสักแห่ง)
อลิสแตร์อ่านมาถึงตรงบทบาทที่ตนต้องแสดงก็เริ่มทำหน้าไม่ถูก ควรจะตื่นตากับความสร้างสรรค์ของเอเจนท์ฮาร์เปอร์ หรือจะไปขำบทที่ตัวเองได้รับดี
หลังจากที่ทุกคนได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทและหน้าที่ของตนในภารกิจครั้งนี้แล้ว เอเจนท์ฮารเปอร์ได้ทำการสรุปแผนปฏิบัติงานอีกครั้งโดยเมื่อถึงพื้นจะให้กระจายกันออกตามหาเบาะแสของโกดังดังกล่าวก่อน หากเจอโกดังแล้วจะแบ่งคนออกเป็น สามทีมแรกจับคู่ค้นหาวัตถุ 0-8-4 ในส่วนพื้นที่โกดังที่ได้รับมอบหมาย แต่ละทีมจะได้โดรนคนละสองตัวเพื่อช่วยหา แล้วจะมีเอเจนท์คอนเนอร์ทำหน้าที่เป็นHQ ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากโดรน รวมถึงดูต้นทางด้วย
1310
ลมจากอ่าวพัดผ่านตรอก ท้องฟ้าที่ดูแจ่มใสกลับไม่อบอุ่นอย่างที่คาด เขากระชับเสื้อแจ็กเก็ทหนังตัวเก่งให้แนบตัวมากขึ้นเพื่อความอบอุ่น เป็นเวลากว่าสี่ชั่วโมงแล้วที่อลิสแตร์ เลอร์วิค เจ้าหน้าสเปเชียลลิสท์ประจำทีมเอช ออกตามหาเบาะแสของโกดังร้างที่เชื่อว่าเป็นที่อยู่ของวัตถุ 0-8-4 สิ่งที่ใกล้เคียงกับคำว่าเบาะแสที่สุดจริงๆคงเป็นคำของหญิงชราที่ถามเขาว่า ‘พ่อหนุ่มหมายถึงโกดังผีสิงนั่นใช่ไหม?’ แค่นั้น เพราะหญิงชราคนดังกล่าวเป็นอัลไซเมอร์ เมื่อเขาขอให้เธอบอกสถานที่ตั้งของโกดัง เธอกลับถามว่าเขาเป็นใคร ต้องการอะไรจากเธอ เขาแนะนำตัวใหม่แล้วถามเธอเรื่องโกดังอีกครั้ง เธอก็ถามเขาประโยคเดิม แล้วก็ลืมเขาอีก เขาพยายามอยู่เช่นนี้ประมาณห้ารอบเห็นจะได้ ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ และผละจากหยิงชราที่น่าสงสารคนนั้นมา
เขากำลังจะกลับไปยังจุดนัดพบเพื่อปรับยุทธวิธีใหม่ พอดีกับที่เสียงแจ้งเตือนเมสเสจจากโทรศัพท์ดัง ข้อความจากเอเจนท์ฮาร์เปอร์ ระบุว่าเจอเบาะแสแล้วให้ไปพบกันที่บาร์แห่งหนึ่งในอีกยี่สิบนาที
ป้ายหลอดไฟนีออนแตกๆสะกดเป็นชื่อผับที่ดูเหมือนไปหามาจากกองขยะมากกว่าซื้อมาติด สีอาคารของผับก็มอซอมีรอยร้าวเล็กๆเต็มไปหมด บางรอยถึงกับมีวัชพืชต้นเล็กต้นน้อยแข่งกันเชิดหน้าชูตาออกมารับแขก ตัวร้านภายนอกว่าแย่แล้ว เมื่อก้าวไปข้างใน บรรยากาศขมุกขมัวอันเกิดมาจากการควันของบุหรี่และยาที่ใช้สูบต่างๆบดบังทัศนวิสัย และช่างไม่เป็นมิตรต่อระบบทางเดินหายใจ เอเจนท์ชาวสก็อตหรี่ตามองหาสมาชิกในทีม เขาเห็นเอเจนท์ฮาร์เปอร์กำลังคุยอยู่กับเด็กวัยรุ่นสองคน ส่วนเอเจนท์คนอื่นนั่งกระจายตัวอยู่ตามส่วนต่างๆของผับ เขาเลือกทำเลของตนแล้วนั่งลงบ้าง
“เฮ้ลุง!! ตกลงเอาไง?” คนอื่นในผับเริ่มหันมาสนใจ อลิสแตร์และสมาชิกคนอื่นที่นั่งคุมเชิงอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่เจรจานักต้องใช้สายตาและภาษากายปรามเล็กน้อย อาจจะดูนักเลง แต่การเข้ามาในพื้นที่ปิดอย่างผับนั้นค่อนข้างเสี่ยง ทางออกก็มีเพียงทางเดียว ซ้ำยังอาจถูกล้อมอีก ฉะนั้นตอนนี้ตัวเขาเองพร้อมจะปะทะตลอดเวลา หากมีใครเล่นอะไรตุกติก
สังเกตเห็นการแลกเปลี่ยนรูปถ่ายของวัยรุ่นกับบัตรไอดีปลอมของเอเจนท์ฮาร์เปอร์ “รอที่นี่ เดี๋ยวจะมีคนเอาเงินมาให้” เหมือนจะปิดการเจรจาได้แล้ว เขาคิด เอเจนท์ฮาร์เปอร์หันมาพยักหน้าให้เพื่อเป็นการคอนเฟิร์ม พวกเขาจึงลุกตามหัวหน้าทีมของตนออกไป
1930
จากเบาะแสที่ได้จากผับ และรูปถ่ายหนึ่งใบที่อ้างว่าเป็นภาพถ่ายติดวิญญาณ พวกเขาเดินทางมายังโกดังอันมีชื่อ
มือกร้านตรวจเช็คอุปกรณ์ต่างๆที่ตนเตรียมมา จัดเสื้อเกราะกันกระสุนให้เข้าที่ ระเบิดและแก๊ซน้ำตาอย่างละสองลูกถูกล็อกไว้กับเข็มขัด .45 อยู่ในซองปืนที่ต้นขาขวา เขารู้สึกว่าพร้อมแล้วจึงหันไปช่วยเจ้าหน้าคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ภาคสนามเตรียมตัว
ในการสำรวจโกดังอลิสแตร์คู่กับเอเจนท์ซัลลิแวน เอเจนท์ผู้ทำหน้าที่เป็นแอดมินนิสสเตรเตอร์ประจำทีม อัธยาศัยดี และสีผมร้อนแรงไม่แพ้เขา
ทันทีที่ผ่านพ้นประตูของโกดัง เกิดลมเย็นๆที่ไม่รู้ที่มาที่ไปพัดผ่านเครื่องจักร เกิดเป็นเสียงหวีดหวิว เหมือนคนผิวปาก ประตูโกดังสั่นกึกๆตามแรงลมที่รุนแรงขึ้น ก่อนทุกอย่างหยุดลงอย่างน่าประหลาด ขนที่ต้นคอลุกชันเมื่ออุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ถ้าเขาจะสำรวจที่นี่ให้เสร็จทันก่อนเวลานัดหมาย 2100 เขาต้องเริ่มทำงานได้แล้ว เมื่อคิดได้อย่างนั้น จึงกระชับอุปกรณ์ต่างๆให้พร้อม ก่อนจะออกเดินไปยังโซนที่ตนเองรับผิดชอบ โดยหวังว่าเควนตินจะเดินตามมาเอง
ช่องทางเดินใหญ่พอที่จะให้ผู้ชายตัวใหญ่สามคนเดินกันเป็นหน้ากระดานได้ เขาเดินขนาบข้างเควนติน คอยดูแลความปลอดภัยและฉายไฟให้ ส่วนแอดมินนิสสเตรเตอร์ป็นผู้ควบคุมโดรนและคอยสังเกตวัตถุต่างๆ เขาจะหยุดเมื่อเควนตินหยุด จะไปต่อเมื่อเควนตินไป เสียงฝีเท้าของเขาแผ่วเบาแม้เขาจะเป็นคนตัวใหญ่และใส่รองเท้าคอมแบท เควนตินแทบจะไม่ได้ยินเสียงเขาเลยหากไม่มีการสนทนาเกิดขึ้น
โดรนตรวจเจอวัสดุที่ปนเปื้อนรังสีบ้าง สารเคมีมีพิษร้ายแรงที่ไม่น่าจะมาพบอยู่ในโรงงานแห่งนี้บ้าง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของวัตถุ 0-8-4 ที่เป็นต้นตอนของคลื่นความถี่ต่ำ อยู่ดีๆพวกเขาก็ได้ยินเสียงโครมครามมาจากอีกฟากหนึ่งของโกดัง สัญชาติญาณทำให้ผลักเควนตินเบาๆให้ไปอยู่ระหว่างชั้นวางตุ๊กตา ส่วนตนเองรีบถอยมาอยู่ในระหว่างชั้นเช่นกันแต่เป็นคนละฝั่งทางเดิน นิ้วชี้แตะริมฝีปาก ส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายอย่าส่งเสียง เขาได้ยินเสียงผู้ชายสองคน ไม่สามคน
“ไอ้พวกเวร! มึงไม่เข้าใจที่กูสั่งหรือไงวะ?!” เสียงทุ้มต่ำตะคอก
“แต่— ท่านครับ—— เมื่อกี้ เมื่อกี้ของมันหล่นลงมาเอง”
“มี—- เสียง——– ฟ้าผ่าด้วยครับ” เสียงโทนต่างกันเล็กน้อยสลับกันพูด มีเสียงหอบขั้น ทำให้เอเจนท์สองคนที่แอบฟังอยู่จับความไม่ค่อยได้
“พวกมึงมันไม่ได้เรื่อง!” เสียงเหมือนมีคนโดนเตะดังตามมา
“มึงคิดว่าผีมีอยู่จริงใช่มั้ย มึงตาย แล้วกลับมาเป็นผีนะ กูจะเชื่อมึง” เสียงตุ้บตั้บดังขึ้นแล้วก็เงียบไป
อลิสแตร์รอจนคนกลุ่มนี้เดินพ้นเขตตนเองไปแล้ว จึงรายงานผลกลับไปยังเอเจนท์ฮาร์เปอร์
2200
สันนิฐานแรกคือกลุ่มคนพวกนี้เป็นพวกปล่อยข่าวเรื่องผีของโกดัง แต่ต่อมากลับไม่ใช่ เมื่อพวกเขาแสดงท่าทีหวาดผวากับเสียงการเคลื่อนไหว หรือแม้กระทั่งของตกเพราะลมพัด ทีมเอชจากแผนผู้เข้าสำรวจบัดนี้กลายเป็นผู้บุกรุกหมายเลขสอง หลังจากประชุมและสรุป แผนการทั้งหมดจำเป็นต้องล้มเลิกเพราะเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด แผนสำรองของสถานการณ์ถูกหยิบมาใช้ และบัดนี้พวกเขาตั้งตัวเป็นผู้ช่วงชิง
- มุราคามิพร้อมกับเลอร์วิคเข้าไปขโมยข้อมูลในแลปท๊อปของพวกเขาที่ ตั้งอยู่ด้านตัวอาคารสำนักงานใหญ่ชั้น 3 ในห้องที่รับข้อมูลมากว่าถูกปิดตายเอาไว้ จากการสำรวจพบว่ามันถูกเปิดออกและใช้เป็นแหล่งประชุมใหญ่ของกลุ่มทีมคนชุดดำ และเพราะเป็นส่วนที่อยู่ลึกจึงมียามเฝ้าประตูเพียงสองคนและผลัดเวรกันทุกสามชั่วโมง และเพราะอยู่ในส่วนลึกและมีบรรยากาศวังเวงจึงไม่ค่อยมีใครอยากเข้าไปภายในห้องเท่าใดนัก
- เอลดริดจ์กับลอว์ซัลลิแวนให้ตามกลุ่มทีมหาอีกกลุ่มที่อยู่ชั้น 2 เผื่อเข้าใกล้ 0-8-4 และตรวจสอบว่าเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้หรือไม่ และให้นำอุปกรณ์ตรวจสอบความถี่คลื่นเตรียมมาไปใช้ด้วย
- ฮาร์เปอร์และคอนนอร์อีกให้สำรวจรอบๆ พื้นที่และชั้น 1 เพื่อคุ้มกันเปิดทางการหลบหนี และคอยรับไฟล์และแบ็คอัพข้อมูลสำรองเอาไว้
ทั้งนี้ผู้เป็นหัวหน้ายังสั่งการให้ลูกทีมสร้างความปั่นป่วนเล็กๆ น้อยๆ เรื่องภูติผีเพิ่มประสบการณ์เสียวในชีวิตแก่พวกชายชุดดำ
– อ้างอิงจากรายงานของเอเจนท์ฮาร์เปอร์
0130
อลิสแตร์รับคำสั่งจากเอเจนท์ฮาร์เปอร์ คุ้มกันเอเจนท์มุราคามิขึ้นมาถึงยังห้องสำนักงานที่ตั้งอยู่ในชั้นสามของโกดัง ระหว่างทางพบเห็นชายชุดดำบ้างประปราย แต่ยังไม่ได้ปะทะกับใคร
สถานที่ที่พวกเขาอยู่ตอนนี้เมื่อเลี้ยวโค้งไปจะเป็นทางเดินแคบๆไปสู่ห้องสำนักงานยาวประมาณ50เมตรซึ่งระหว่างทางจะมีตรอกซอกซอยเชื่อมอยู่เป็นระยะๆ ประตูทางเข้าห้องเป็นประตูเหล็กหนา มีกรอบหน้าต่างเล็กๆที่ระดับศีรษะตรงกลางเป็นกระจกกันกระสุน อลิสแตร์ชะโงกหน้าออกจากมุมหลบเห็นว่าข้างในห้องไม่มีคนอยู่แน่ ยก .45 ติดที่เก็บเสียงไว้พร้อมขึ้นเล็ง ออกสำรวจไปยังซอกซอยต่างๆ เขาแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้แน่จึงกวักมือเรียกให้เอเจนท์มุราคามิตามมา
เขายืนคุมเชิงอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ พร้อมจะยิงทุกเมื่อหากมีชายชุดดำโผล่มา รอเอเจนท์อีกนายแฮ็คทางเข้าประตู การแฮ็คผ่านไปได้ด้วยดี เขาส่งสัญญาณบอกให้เอเจนท์ชาวเอเชียรู้ว่าเขาจะเฝ้าอยู่ข้างนอกนะ
เขามองดูเวลา ผ่านไปหลายนาทีแล้ว ยังไม่เสร็จ เขาหันไปส่งสัญญาณถามผ่านช่องหน้าต่างประตูว่าอีกนานไหม แต่เหมือนเอเจนท์มุราคามิจะคร่ำเคร่งกับการเจาะระบบมากจนไม่เห็นสิ่งที่เขาถาม เขามองดูนาฬิกาข้อมืออีก ไม่มีใครรู้ว่าชายชุดดำจะกลับมาเมื่อไหร่ ทางไหน ถ้าจะต้องเกิดการปะทะกันในทางเดินแคบๆ เขาอาจจะได้เปรียบ ก็จริง แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ชอบการเซอร์ไพรส์
เขาได้ยินเสียงฝีเท้า ไม่ใช่แค่ของคนหนึ่งคน แต่เป็นกลุ่ม เคลื่อนที่มาทางเขา
“เออ ใช่ เพิ่งนึกขึ้นได้ ลืมของไว้ในห้องประชุมว่ะ” เสียงแว่วมาจากซอยที่ถัดอยู่ถัดไปอีกสิบเมตรทางขวามือของห้องสำนักงาน
“ไปกันก่อนเลยเว่ย เดี๋ยวตามไป” เสียงเดิมตะโกนบอกเพื่อนในกลุ่ม
อลิสแตร์เดาว่าห้องประชุมที่คนคนนี้กล่าวถึงน่าจะเป็นห้องสำนักงานที่ตนเฝ้าอยู่ หันไปมองในห้องมุราคามิก็ยังไม่เสร็จ จะทิ้งมุราคามิไว้แล้วไปหลบอีกซอยนึงก่อนค่อยโผล่มาน็อคชายชุดดำก็ดูจะเสี่ยงเกินไป ไม่รู้ว่ากลุ่มชายชุดดำที่เดินตามมาด้วยจะไปทางไหนต่อ จะเห้นตนรึเปล่า เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆทำให้เขาตัดสินใจเข้าไปในห้องนั้น สั่งให้มุราคามิมุดไปอยู่ใต้โต๊ะ แล้วตนไปหลบอยู่ข้างประตู รอจังหวะที่เหมาะสม
วันนี้เป็นวันที่ดีวันหนึ่งของแอนดรูว์ เขาทำการสำรวจโกดังในส่วนของตนเสร็จไปเพิ่มอีกหนึ่งส่วน ถือว่าทำงานได้เร็วเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับทีมอื่น โบนัสท้ายปีไม่รอดตกเป็นของทีมเขา แล้วตัวเขาในฐานะผู้วางแผนสำรวจประจำทีมจะได้เปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นจากกำไรที่ได้จากโปรเจ็คนี้ ถ้าไม่ติดว่าที่นี่มีกฎไม่เข้าท่าเรื่องคนทุกคนที่ทำงานให้ทีมสำรวจจะต้องใส่ชุดดำ แอนดรูว์จะใส่เสื้อสีสดใสมาพร้อมกับออร่าที่เปล่งประกาย ชนิดที่ออร่าของโทนี่สตาร์คก็กลบความแฮปปี้สุดๆของแอนดรูว์เอาไว้ไม่ได้ เขากำลังจะออกไปกินเลี้ยงกับเพื่อนแต่เผอิญว่าเขาลืมเอกสารงานไว้ในห้องประชุม ด้วยความที่เป็นคนรับผิดชอบแอนดรูว์จึงต้องการกลับมาเก็บเอกสารงานของตนให้เรียบร้อยเสียก่อน
คีย์การ์ดแนบกับตัวสแกน ประตูเปิดออก แอนดรูว์เห็นแล้วว่าเอกสารที่ตนต้องการอยู่ตรงไหน จึงไม่ได้หันหลังกลับไปเปิดไฟ ขณะที่เขากำลังจัดเรียงเอกสารดังกล่าวอยู่ เขาเหลือบไปเห็นไฟจากโน้ตบุ๊คที่ใช้บันทึกรายงานการประชุมยังติดอยู่
“เมื่อกี้เราปิดมันไปแล้วนี่น—-” อะไรบางอย่างมารัดคอเขา เขาหายใจไม่ออก มือป้อมเหนี่ยวรั้งสิ่งที่กำลังรัดคอเขา เขาแค่ต้องการอากา— สายตาของแอนดรูว์เริ่มพล่าเลือน แล้วโลกทั้งใบจะดับวูบลงไป
อลิสแตร์ค่อยๆวางร่างที่หมดสติของชายชุดดำลง มุราคามิโผล่ขึ้นมาจากใต้โต๊ะ แล้วทำการเจาะคอมต่อซึ่งเสร็จในสุด อลิสแตร์ไม่แม้แต่จะเสียเวลาลากร่างหมดสติของชายชุดดำไปซ่อนไว้ เขาส่งข้อความไปให้เอเจนท์ฮาร์เปอร์เพื่อยืนยันการเสร็จสิ้นภารกิจ
เขากับมุราคามิกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากห้อง ตัดสินใจกลับทางเดิม พวกเขาวิ่งลัดเลาะไปเรื่อยๆตามทางเดิม พอถึงบันไดทางลงระหว่างชั้นสามกับสอง เสียงฝีเท้าที่เกิดจากการกึ่งเดินกึ่งวิ่งของพวกเขาดังเกิน จนทำให้ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนอีกกลุ่มที่กำลังใกล้เข้ามา พวกเขาหักเลี้ยวเพื่อที่จะลงบันไดไปชั้นสองพอดีกับที่ชายชุดดำอีกกลุ่มที่อยู่ไม่ไกลนักเลี้ยวโค้งมา ข้อผิดพลาดโง่ๆ อลิสแตร์ก่นด่าตัวเองในใจก่อนจะให้มุราคามิวิ่งนำลงบันไดไปก่อน กลุ่มชายชุดดำที่เพิ่งตั้งสติได้ก็เฮละโลตามมา อลิสแตร์ยิงขาร่วงไปสองคนก่อนจะหันไปยิงคนที่กำลัวจะวอรายงานว่ามีผู้บุกรุกเข้าที่หัวอีกหนึ่ง แล้วจึงวิ่งตามมุราคามิลงไป
พวกเขาวิ่งลงมาถึงชั้นหนึ่งผ่านห้องส่วนที่เป็นโรงงานเย็บจักร ชายชุดดำวิ่งตามลงมาติดๆ เหมือนพวกนั้นเพิ่งนึกได้ว่าควรหยิบปืนออกมายิง เขาอดถอนหายใจกับเจ้าหน้าที่ที่นี่ไม่ได้จริงๆ กระสุนห่าแรกมา .. แล้วก็ผ่านไป เห็นว่าคนที่วิ่งอยู่ข้างหน้ายังปลอดภัยดี ตัวเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ เขาหยุดเป็นระยะเพื่อหาที่หลบยิงตอบโต้ แต่กำชับให้มุราคามิวิ่งไปเลย ไม่ต้องรอ
เขาปาแก๊สน้ำตาดักพวกชายชุดดำเอาไว้ ยิงหลอกอีกสองสามที แล้ววิ่งมุ่งไปยังจุดนัดพบที่เอเจนท์ฮาร์เปอร์กับเอเจนท์คอนเนอร์รออยู่ เขาเห็นหลังของเอเจนท์มุราคามิอยู่ไม่ไกล จึงเร่งสปีดเต็มที่หวังจะให้ทัน
เหมือนชายชุดดำกลุ่มนี้จะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ เพราะเสียงเอ็ดตะโลที่ไล่หลังมาไม่ได้เกิดจากสมาชิกในทีมเขาแน่นอน เขาวิ่งนำเอเจนท์มุราคามิไปในที่สุด ถึงก่อนกันแค่ไม่กี่วินาที สบายใจที่เห็นเอเจนท์ชาวเอเซียที่ลงไปหมดสภาพได้อย่างไรไม่ทราบมีเอเจนท์คอนเนอร์ช่วยพาเข้าที่กำบังเรียบร้อยแล้ว เขาคว้าแว่นตาอินฟาเรดที่วางอยู่แถวนั้นมาสวม บรรจุแม็กกาซีนใหม่ให้.45ตัวโปรดอย่างชำนาญ ยกลำกล้องขึ้นอยู่ในท่าเตรียมพร้อม
กลุ่มชายชุดดำที่วิ่งตามมาชะลอตัวแล้วหยุดอยู่ไม่ห่างจากแนวล่องหนที่อลิสแตร์และเอเจนท์ฮาร์เปอร์ฟอร์มไว้มากนัก สัญชาตญานทำให้พวกมันฟอร์มตัวเป็นไลน์เหมือนกัน ทำให้เรารู้ว่าพวกมันมีกันเจ็ดคน
ไม่ใช่มืออาชีพ ยังลังเลทั้งๆที่เมื่อครู่เราเปิดช่องไว้ตั้งมากมาย
ความตึงเครียดก่อตัวขึ้นระหว่างไลน์ทั้งสอง ใกล้ถึงจุดแตกหักเต็มที
“คุณเอาไปสามแล้วเปิดทางให้คนที่เหลือ” สิ่งสุดท้ายที่เขาได้ยินก่อนที่การจู่โจมจะเริ่มขึ้น
ทำตามอย่างที่ได้รับมอบหมาย ใจเขานิ่งสงบคำนวนการโจมตี เขาเลือกยิงคนที่กระโจนเข้าหาเขาคนแรกที่หน้าอก นัดที่หนึ่งยังไม่ล้มจึงซำ้อีกนัดแล้วหันไปจัดการกับผู้กล้าคนถัดไปที่โถมตัวเข้าหาเขาพร้อมกับมีดในมือ เขาหักตัวหลบอย่างรวดเร็วทำให้ชายมือมีดถลาไปข้างหน้า เขาบิดตัวหันไปทุบต้นคออีกฝ่ายด้วยสันปืนล้มหมดสติไป เขาได้ยินเสียงคำรามจากด้านหลัง เขาหันกลับไปเจอชายชุดดำคนที่สามกำลังแกว่งมีดบัตเตอร์ฟลายไปมา พร้อมส่งเสียงขู่เป็นระยะๆ ทำอย่างนี้อยู่นานจนเขาเริ่มเบื่อเลยยิงเข้าที่หน้าอกสองนัด เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีการ
อดีตนาวิกเดินเข้าไปเช็คผู้รอดชีวิตคนเดียวที่ยังเหลืออยู่และทำท่ากำลังจะฟื้น เหมือนจะเพิ่งนึกออกลางๆว่าเอเจนท์ฮาร์เปอร์ต้องการให้จับเป็น มองศพสองศพที่มีรูบนหน้าอกคนละสองรูแล้วแอบรู้สึกผิดเล็กๆ เขาเดินไปหยุดอยู่ตรงอดีตมือมีด เขาเตะของมีคมให้พ้นจากมือของชายคนดังกล่าวที่หมดสติ เหลือแต่รอเอเจนท์ฮาร์เปอร์ให้เคลียร์ปัญหาทางนั้นให้เสร็จแล้วมาสรุปงาน
คนที่เขากำลังนึกถึงไม่ทำให้ผิดหวัง ชายผมสีซีดปรากฏตัวพร้อมกับชายในชุดดำอีกคนในอ้อมแขน เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าเขาเองก็จับเป็นไว้คนนึงก็ดูจะพอใจใช่น้อย
ชายนิรนามในชุดดำทั้งสองฟื้นแล้ว ถูกบังคับให้นั่งในท่าคุกเข่า และมีเอเจนท์ตืดอาวุธคุมอยู่ข้างหลัง
“มีอะไรอยากพูดไหมครับ?” เอเจนท์ฮาร์เปอร์ถามด้วยน้ำเสียงปกติ
ไม่มีใครยอมปริปาก ทันใดนั้นดวงตาของทั้งสองเบิกโพล่ง นิ้วมือหงิกเกร็งทิ้งตัวล้มหมดสภาพ ดิ้นอย่างอนาถอยู่สองทีแล้วแน่นิ่งไปในที่สุด
0350
เขาช่วยขนศพชายชุดดำที่เสียชีวิตอย่างปริศนาขึ้นรถตู้ที่จอดไว้ใกล้โกดังไปขนย้ายต่อด้วยเฮลิคอปเตอร์เพื่อนำไปชันสูตรที่ชีลด์อีกครั้งหนึ่ง
คนในทีมได้ช่วยกันสรุปออกมาเป็น final report ดังนี้
ข้อมูลที่จารกรรมมาได้เป็นแผนภาพการเข้าสำรวจของคนชุดดำ มีการค้นหาและทำลายข้าวของข้างใน มีคลื่นพลังงานถูกปล่อยออกมาโดยเวลาที่ปล่อยนั้นไม่เป็นระบบ และช่วงระยะเวลาการปล่อยคลื่นไม่เท่ากัน อีกทั้งแหล่งพลังงานที่เกิดไม่สามารถระบุพิกัดที่แน่นอนได้ สันนิฐานว่าเป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่ใช้ผลิตอาวุธในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง การค้นหาไม่สามรถหาต่อไปได้เพราะพื้นที่ถูกระเบิดทำลายไปเรียบร้อยแล้ว และคาดว่า 0-8-4 ในภารกิจนี้แบ่งออกเป็นสามกรณีคือ ถูกทำลายไปแล้ว ยังอยู่ที่เดิมแต่ไม่สามารถไปค้นหาได้ในเวลานี้ หรือถูกขนย้ายไปแล้วจากกองกำลังไม่ทราบฝ่าย บวกกับข้อมูลการวินิจฉัยสาเหตุการตายของชายชุดดำทั้งสอง พวกเขาตายด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน
0800
วันนี้เขาตื่นสายกว่าปกติ อันที่จริง ถ้าเราไม่ได้นอนก็ไม่ควรใช้คำว่าตื่น เมื่อรุ่งสางกว่าเขาจะถึงแฟล็ตก็ปาเข้าไปหกโมงเช้า แล้ว เวลาสองชั่วโมงนิดๆ หักเวลาอาบน้ำไปอีกสิบนาที เวลานอนเขาไม่เหลือแล้วจริงๆ เขาเปิดทีวีดูข่าวตอนเช้าพร้อมกับเริ่มกิจวัตรประวันตามปกติ เขากำลังอุ่นเบเกิ้ล ตอนที่ได้ยินข่าวเรื่องไฟไหม้ใหญ่ที่โกดังย่านแมนฮัตตัน ในข่าวรายงานถึงกองถ่ายเรื่องเฮี้ยนที่เล่นพิเรนเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ สุดท้ายตำรวจท้องที่พบร่างไหม้เกรียมจำนวนเจ็ดร่างซึ่งเชื่อว่าเป็นร่างของสมาชิกกองถ่ายนี้ จะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งเขาก็ไม่ชินกับการกลบข่าวเว่อๆแบบนี้สักทีล่ะนะ ภาพตัดจากคลิบกองเพลิงที่มีชาวบ้านบันทึกไว้ได้ ไปสัมภาษณ์เด็กวัยรุ่นสองคนนั้นในฐานะที่เป็นพยานปากเอกเป็นคนปล่อยข่าวทำให้คนเจ็ดคนนี้ไปตาย กลายเป็นวิญญาณแค้นเฝ้าโกดังไป
เขาอดขำไม่ได้จริงๆ เป็นสมัยก่อนเขาคงคิดว่าเรื่องพวกนี้มันไร้สาระ คนอื่นก็เหมือนกัน แต่ตั้งแต่มีเอเลียนถล่มนิวยอร์ค แล้วถูกหยุดยั้งโดยซุปเปอร์ฮีโร่ในชุดคอสตูม Anything is possible.